การทดสอบที่รวดเร็วขึ้น 

แหล่งพลังงานสำหรับรถยนต์ไฟฟ้าประกอบด้วยแบตเตอรี่หรือเซลล์เชื้อเพลิง ซึ่งได้รับการจัดการโดย
ระบบการจัดการแบตเตอรี่ในรถยนต์ไฟฟ้าสมัยใหม่ ด้วยความต้องการพลังงานที่สูงของตัวรถตลอด
การทดสอบแบตเตอรี่และเซลล์เชื้อเพลิงโดยการจำลองสถานการณ์จริงจึงเป็นเรื่องสำคัญ
ตั้งแต่เริ่มสตาร์ตและหยุดรถไปจนถึงการเผชิญกับการจราจรที่ติดขัดในชั่วโมงเร่งด่วนท่ามกลางความร้อนที่แผดเผาเมื่อ
เปิดเครื่องปรับอากาศ รถยนต์ไฟฟ้าต้องเผชิญกับความท้าทายต่างๆ บนท้องถนน และความสามารถในการจำลองสถานการณ์
เหล่านี้เป็นสิ่งสำคัญ เพื่อให้เป็นไปตามมาตรฐานการทดสอบยานยนต์ไฟฟ้า หากต้องการศึกษาเพิ่มเติมเกี่ยวกับการทดสอบ
แหล่งพลังงานเหล่านี้ โปรดเข้าชมที่หัวข้อแบตเตอรี่และเซลล์เชื้อเพลิง

การทดสอบนี้เป็นส่วนหนึ่งของ อุปกรณ์ภายใต้การทดสอบ(DUT)
แต่มีความแตกต่างกับการทดสอบการจัดการแบตเตอรี่เนื่องจากต้องคำนึงถึงแรงดันไฟฟ้าที่แตกต่างกัน
ภายในรถยนต์ไฟฟ้า อุปกรณ์แปลงแรงดันจะแปลงแรงดันไฟฟ้าสูงจากแบตเตอรี่(200-800VDC)
ให้เป็นแรงดันไฟฟ้าต่ำ(12-48V) ซึ่งเป็นแรงดันไฟฟ้าสำหรับการทำงานอุปกรณ์ต่างๆเช่น ไฟส่องสว่าง และ วิทยุ
เป็นต้น การทดสอบอุปกรณ์แปลงแรงดันต้องมีการจ่ายไฟเข้า และ เชื่อมต่อโหลดอิเล็กทรอนิกส์สำหรับขาออก
พาวเวอร์ซัพพลายจากทางEA สามารถสร้างแรงดันไฟฟ้าได้ทั้งแบบสูงและต่ำตามที่ต้องการ อีกทั้งพาวเวอร์ซัพพลาย
แบบสองทิศทางของทาง EA สามารถทำงานได้ทั้งเป็นอุปกรณ์จ่ายไฟขาเข้าและอุปกรณ์ดึงไฟขาออกแล้วแต่
ความต้องการของผู้ใช้งาน ด้วยฟังก์ชันสร้างคลื่นสัญญาณทำให้ผู้ใช้งานสามารถจำลองสถานการณ์ในโลกแห่งความจริงได้
เช่น การเปิด- ปิดหน้าซ้ำๆต่อเนื่อง หรือ การใช้งานเครื่องทำความร้อนเมื่ออุณหภูมิลดต่ำมากในฤดูหนาว
การตั้งค่าในการทดสอบทั่วไป คือ ใช้อุปกรณ์ PSB 1 คู่สำหรับจำลองการทำงานของอุปกรณ์แปลง
แรงดันทั้งฝั่งแรงดันไฟฟ้าสูงและฝั่งแรงดันไฟฟ้าต่ำ ดั่งที่แสดงในรูปด้านล่าง ด้วยประสิทธิภาพของเครื่อง PSB
จากทาง EA ทำให้เกิดการสูญเสียพลังงานเพียง 5-10%  เท่านั้นในการทดสอบเหล่านี้ ซึ่งพลังงานที่เหลือ
จะถูกส่งกลับไปใช้ภายในวงจรการทำงาน

การทดสอบอุปกรณ์ชาร์จไฟแบบติดผนังหรือสถานีแท่นชาร์จไฟ การทดสอบนี้เป็นส่วนหนึ่งของ
อุปกรณ์ภายใต้การทดสอบ(DUT) แต่มีความแตกต่างกับการทดสอบทั้งหมดที่เคยกล่าวมา
เนื่องจากต้องคำนึงถึงแรงดันไฟฟ้าที่แตกต่างกัน  ข้อพิจารณาสำคัญเมื่อต้องการซื้อรถไฟฟ้า
คือเราจะชาร์จไฟได้ที่ไหนและอย่างไร อุตสาหกรรมยานยนต์กำลังค้นหาคำตอบต่างๆ
ที่จะลดผลกระทบต่อผู้ขับขี่ให้ได้มากที่สุด ในปัจจุบันการชาร์จไฟทำได้ 4 แบบ​
คือ ชาร์จไฟผ่านเต้ารับไฟของที่พักอาศัย (Mode 1), ชาร์จไฟด้วยสาย ICCPD (Mode 2),
ชาร์จไฟผ่านอุปกรณ์าร์จไฟแบบติดผนังหรือสถานีแท่นชาร์จไฟ (Mode 3) และ ชาร์จไฟด้วยแท่นชาร์จไฟฟ้ากระแสตรง
 (Mode 4) พาวเวอร์ซัพพลายกระแสตรงจากทาง EA ที่มีความสามารถในการปรับย่านอัตโนมัติ
สามารถจำลองการทำงานที่แตกต่างกันของการชาร์จแต่ล่ะรูปแบบได้ ด้วยฟังก์ชันปรับย่านอัตโนมัติ
ทำให้การจ่ายไฟมีย่านอแรงดันไฟฟ้าที่กว้าง ซึ่งไม่เหมือนการจ่ายแรงดันสูงสุดเพียงอย่างเดียวแบบอุปกรณ์รุ่นเก่าของ EA
อุปกรณ์จากทาง EA สามารถมอบอัตราจ่ายพลังงานสูงสุดที่แรงดันไฟ 1000V, 1500V และ 2000V
อุปกรณ์รุ่นดังกล่าวมีความสามารถดังนี้ ทำงานแบบสองทิศทาง, สร้างคลื่นสัญญาณแบบตั้งโปรแกรมได้,
การดึงพลังงานกลับมาใช้ใหม่ และ ทนต่อการรบกวนของแม่เหล็กไฟฟ้า
ทั้งหมดนี้เพื่อตอบสนองต่อความต้องการด้านการทดสอบระบบชาร์จไฟของรถไฟฟ้าที่กำลังพัฒนาอย่างต่อเนื่อง
 หากต้องการศึกษาเพิ่มเติมเกี่ยวกับการชาร์จไฟจากสถานีแท่นชาร์จไฟ Mode 3 สามารถศึกษาเพิ่มเติมได้ที่หัวข้อ
 เทคโนโลยีการชาร์จไฟ สำหรับข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับเซ็นเซอร์โครงสร้างพื้นฐานของสถานีแท่นชาร์จไฟ เช่น RDC,
  RCMB และ  IMD สามารถรับชมเพิ่มเติมได้ที่หัวข้อ เซ็นเซอร์โครงสร้างพื้นฐาน

ภายในรถยนต์ไฟฟ้า  ไฟฟ้ากระแสสลับถูกจ่ายเพื่อขับเคลื่อนมอเตอร์ในขณะที่ไฟฟ้ากระแสตรงถูกจ่ายเพื่อควบคุม
ส่วนประกอปต่างๆของรถยนต์ไฟฟ้า ซึ่งถือว่าสมเหตุสมผลเมื่อพิจรณาจากแหล่งที่มาของพลังงานอันได้แก่แบตเตอรี่
อินเวอร์เตอร์ลากจูงมีหน้าที่แปลงพลังงานกลับไปกลับมาระหว่างแบตเตอรี่ที่เป็นไฟฟ้ากระแสตรงและมอเตอร์
ซึ่งเป็นไฟฟ้ากระแสสลับ อินเวอร์เตอร์มีบทบาทในการดึงพลังงานกลับมาใช้ผ่านระบบเบรค, เพิ่มแรงดันไฟฟ้า
และ การทำงานของสวิตช์ป้องกันต่างๆ ดังที่แสดงด้านล่าง  พาวเวอร์ซัพพลายแบบสองทิศทางของ EA
สามารถใช้งานในการทดสอบอินเวอร์เตอร์ลากจูงซึ่งเชื่อมต่อกับมอเตอร์ไฟฟ้า  พาวเวอร์ซัพพลายแบบสองทิศทาง
สามารถจ่ายพลังงานให้กับอินเวอร์เตอร์ลากจูง, จำลองการทำงานของแบตเตอรี่ และ ดูดซับพลังงานเมื่อมอเตอร์
ทำงานเป็นแหล่งกำเนิดไฟฟ้าขณะเกิดการเบรคและเมื่อชาร์จไฟเข้าแบตเตอรี่ คุณสมบัติปรับย่านอัตโนมัติของ EA
ช่วยให้แรงดันไฟฟ้าขาออกมีความยืดหยุ่นสูงกว่าเมื่อเทียบกับพาวเวอร์ซัพพลายกระแสตรงแบบดั้งเดิม
ทำให้จ่ายกำลังไฟได้อย่างเต็มที่แม้แรงดันไฟฟ้าจะถูกปรับลดลงก็ตาม ซึ่งหมายความว่าพาวเวอร์ซัพพลาย
กระแสตรงจากทาง EA สามารถใช้งานทดแทนพาวเวอร์ซัพพลายกระแสตรงทั่วไปหลายตัวได้
โดยทั่วไปพาวเวอร์ซัพพลายแต่ล่ะตัวจะมีหน้าที่แยกกัน เช่น จ่ายไฟอินเวอร์เตอร์, จ่ายแรงดันไฟสูงที่กระแสไฟต่ำ
และ จ่ายแรงดันไฟต่ำที่กระแสไฟสูง

นอกจากส่วนประกอปหลักของรถยนต์ไฟฟ้าตามหัวข้อที่ได้กล่าวไปแล้ว ส่วนประกอปเสริมอื่นๆ
ของภายในรถยนต์ไฟฟ้าลและเครื่องยนต์สันดาปภายในต่างทำงานด้วยไฟฟ้ากระแสตรงเช่นกัน
แรงดันไฟฟ้าที่ต้องการเพื่อให้อุปกรณ์เสริมเหล่านี้ทำงานมาตรฐานอยู่ที่ 12V ถึง 1000V หรือมากกว่า
ด้วยแรงดันไฟฟ้าที่ต่างกันทำให้วิศวกรทดสอบต้องใช้พาวเวอร์ซัพพลายกระแสตรงหลายตัวเพื่อทำการทดสอบ
อย่างไรก็ตาม พาวเวอร์ซัพพลายและโหลดอิเล็กทรอนิกส์จากทาง EA มีอัตราจ่ายพลังงานที่สูงและมีฟังชั่นปรับ
ย่านอัตโนมัติ ทำให้ครอบคลุมการทำงานที่หลากหลาย อีกทั้งยังประหยัดพื้นที่และต้นทุนสำหรับการติดตั้งตู้แร็ค
 
ด้วยประสิทธิภาพอันยอดเยี่ยมของอุปกรณ์จากทาง EA สามารถช่วยให้คุณลดค่าใช้จ่ายด้านพลังงาน,
ลดพื้นที่สำหรับการติดตั้งตู้แร็ค และ ลดค่าใช้จ่ายด้านการระบายความร้อนได้เป็นจำนวนมาก
เมื่อผสานการทำงานเข้ากับ Automatic Test Environment (ATE) หรือโปรแกรมช่วยเหลือ
สำหรับการทดสอบที่ทำได้ง่ายผ่านโมดูล Anybus ที่จะเชื่อมการสื่อสารแบบดิจิตอลต่างๆ เช่น
CANopen, Ethernet, Profibus และอื่นๆ